ยอดมะพร้าวส่วนที่แข็งๆอย่าทิ้งนำมาหั่นฝอยๆแกงใส่กระดูกอ่อนอร่อยเลยค่ะ
ครั้งที่แล้วแอนนำเสนอเมนูยอดมะพร้าวผัดกุ้งไปโดยใช้ส่วนที่อ่อนที่สุดนำไปผัดและให้เก็บส่วนที่แข็งๆไว้อย่าเพิ่งทิ้งเพราะเมื่อนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเหมือนหน่อไม้ฝอยแล้วนำมาแกงอร่อยเลยค่ะสูตรนี้จะตำพริกแกงคล้ายๆแกงเขียวหวานบวกกับแกงเผ็ดเพิ่มขมิ้นเข้าไปเพื่อให้สีสวยน้ำแกงจะออกเข้มข้นจากการใส่กะทิโดยใช้กะทิเพียง1/2กล่องแกงออกมาจะเป็นลักษณะน้ำขลุกขลิกและเพิ่มแคลเซี่ยมด้วยการใช้กระดูกอ่อนหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเคี้ยวกรุบๆมีวิธีทำพร้อมสูตรพริกแกงมาฝากด้วยค่ะไปดูวิธีทำกันเลยค่ะ
ส่วนผสมพริกแกง
หัวหอมซอย1/2ถ้วยตวง
กระเทียมซอย1/2ถ้วยตวง
ตะไคร้ซอย1/2ถ้วยตวง
ข่าฝานบางๆ1/4ถ้วยตวง
ขมิ้นชัน1-2ช้อนชา
รากผักชี3ราก
ผิวมะกรูด1ช้อนชา
พริกชี้ฟ้าสีส้มหั่นฝอย1/2ถ้วยตวง
พริกขี้หนูสีเขียว8เม็ดหรือมากว่ากรณีชอบเผ็ดมาก
พริกแห้งเม็ดเล็ก9เม็ดแช่น้ำให้นิ่มผ่าเอาเมล็ดออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กเพื่อให้ตำง่ายละเอียดเร็ว
พริกไทยเม็ด2ช้อนชา
กะปิ2ช้อนโต๊ะ
วิธีตำพริกแกง
นำส่วนผสมทั้งหมดตำลงในครกโดยเริ่มจากส่วนผสมที่แข็งก่อนเมื่อตำส่วนผสมทุกอย่างละเอียดแล้วจึงใส่กะปิลงไปและตำให้เข้ากันพักไว้
ส่วนผสมแกงยอดมะพร้าวใส่กระดูกอ่อน
ยอดมะพร้าวหั่นฝอยประมาณ1ถ้วย
กระดูกอ่อนหั่นเป็นชิ้นเล็กๆประมาณ300กรัม
กะทิประมาณ1/2กล่องหรือ150ซีซี
ใบมะกรูดฉีก5ใบ
พริกชี้ฟ้าสีเหลืองซอยเป็นชิ้นเล็กๆ
พริกแกง1/2ถ้วยตวง
น้ำเปล่า2ถ้วยตวง
เครื่องปรุง
เกลือ1/2ช้อนชา
น้ำตาลทราย1ช้อนชา
น้ำปลา1ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.ตั้งกระทะให้ร้อนใส่น้ำเปล่าลงไป1/3ถ้วยตวง
2.นำพริกแกงลงไปรวน1/2ถ้วยตวง
3.ใส่น้ำมันพืชลงไป1/2ถ้วยตวงรวนให้เข้ากัน
4.เติมน้ำกะทิลงไป1/3ถ้วยตวงรวนให้เข้ากันเมื่อน้ำเริ่มแห้งใส่กะทิลงไปอีก1/3ถ้วยตวงค่อยๆใส่เพื่อความเข้มข้นของน้ำแกง
5.ใส่น้ำเปล่าลงไป1/2ถ้วยตวงคนจนเดือดแล้วเติมน้ำลงไปอีก1/2ถ้วยตวงรอจนเดือดอีกครั้ง
6.ใส่กระดูกอ่อนหั่นเป็นชิ้นเล็กๆลงไปรอจนสุก
7.ใส่ยอดมะพร้าวหั่นฝอยลงไปคนให้เข้ากัน
8.เติมน้ำเปล่าลงไป1/2ถ้วยตวง
9.ปรุงรสด้วยเกลือป่นน้ำตาลทรายและน้ำปลาชิมรสตามชอบ
10.ใส่พริกชี้ฟ้าหั่นฝอยและใบมะกรูดฉีกลงไป
11.เติมน้ำกะทิที่เหลือลงไปสีน้ำแกงจะเหลืองนวลสวยพอเดือดยกลงตักใส่ถ้วยเสริ์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
เคล็ดลับที่สำคัญในการทำเมนูแกงให้อร่อยคือการรวนพริกแกงต้องใจเย็นค่อยๆใส่น้ำรวนจนได้ที่สีสวยกลิ่นหอมแล้วจึงใส่ส่วนผสมอื่นลงไปค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น